แนะนำธุรกิจปี2559

.
ป้ายกำกับ:

Body Care ธุรกิจแว็กซ์ขนอันดับหนึ่งของไทย เน้นการทำแฟรนไชส์ซี


Body Care ธุรกิจแว็กซ์ขนอันดับหนึ่งของไทย
เน้นการทำแฟรนไชส์ซี ตั้งเป้า 40 สาขาทั่วประเทศ

โอกาสของธุรกิจแว็กซ์ขนในปี 2559
       สำหรับธุรกิจแว็กซ์ขนในเมืองไทย ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก บอดี้แคร์ บริการด้านการแว็กซ์ขนอันดับหนึ่งของประเทศ ด้วยการได้รับเสียงตอบรับที่ดี มีการให้บริการที่ใส่ใจลูกค้าทุกคน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 บอดี้แคร์ได้รับหนังสือรับรองมาตรฐานแฟรนไชส์จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ทำให้บอดี้แคร์เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับคนที่กำลังมองหาธุรกิจเพื่อความงาม ทั้งนี้ คุณกรรณิการ์ ตามประทีป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัทบอดี้แคร์ ได้ การันตีว่า บอดี้แคร์เป็นธุรกิจที่ทำได้ง่าย ลงทุนน้อย สร้างรายได้ให้กับนักลงทุนมากกว่ารายได้ประจำเสียอีก และเตรียมจะขยายธุรกิจให้ครบวงจรมากกว่าเดิม
       ปัจจุบันบริษัท บอดี้แคร์ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 เป็นบริษัทนำเข้า ผลิตภัณฑ์ด้านความงามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มีสินค้าที่ครบถ้วนทุกรายการ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ ที่ใช้กับเส้นผม ใบหน้า จรดปลายเท้า มีการขัดผิว พอกผิว นวดหน้า นวดทรวงอก อกเล็กให้ใหญ่ อกคล้อยให้กระชับ หลังคลอดบุตรหรือหลังการลดความอ้วน
      สำหรับแนวโน้มธุรกิจความงาม  คุณกรรณิการ์ ตามประทีป มั่นใจว่าธุรกิจความงามไปได้อีกไกลมาก เพราะสำหรับผู้หญิงเรื่องความสวยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านสปา หรือแว็กซ์ขนของบอดี้แคร์ ยิ่งในปลายปีนี้มีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป็นธุรกิจที่รับประกันได้ว่าทำแล้ว ยังอยู่ในตลาดได้อีกยาวไกล



     บอดี้แคร์ ปรับโฉมใหม่! เพิ่มแพคเกจ ขยายแฟรนไชส์ซี
และหลักสูตรการเรียนแว็กซ์ขน ตามมาตรฐานแฟรนไชส์
      ในปี 2559 ทางบริษัท บอดี้แคร์ มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ขยายธุรกิจให้มีความมั่นคงและเข้าถึงลูกค้าทุกรูปแบบ เพิ่มแว็กซ์อุ่นตอบโจทย์ลูกค้า ทางบอดี้แคร์มีการปรับเปลี่ยนแพคเกจ30,000 บาท โดยหากลูกค้าเพิ่มอีก 10,000 บาท จะได้วอร์มแว็กซ์ (warm wax)หรือแว็กซ์อุ่นเพิ่มเข้าไป ซึ่งก่อนใช้ต้องอุ่นเล็กน้อยจนได้อุณหภูมิร่างกาย  โดยมีหม้ออุ่น แว็กซ์ และขั้นตอนการแว็กซ์ที่ต้องใช้เทคนิคมากขึ้น



       ขยายแฟรนไชส์ซี  เนื่องจาก บริษัท บอดี้แคร์ ได้มาตรฐานแฟรนไชส์จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงต้องการให้ทุกสาขาได้มาตรฐานเหมือนกันทุกสาขาและครบวงจรมากขึ้น ซึ่งลูกค้าที่จะเข้ามาเป็นแฟรนไชส์ซีต้องเข้าโครงการ มีการพูดคุยเงื่อนไข โดยแฟรนไชส์ซีจะมีชื่อ รูปแบบของร้าน สินค้า การแต่งตัวของพนักงาน จะต้องเป็นรูปแบบเดียวกันและใช้สินค้าของบอดี้แคร์เท่านั้น  มีแพคเกจ 100,000 บาท/ 300,000 บาท/ 500,000 บาท ให้เลือกตามความต้องการ
      เพิ่มหลักสูตรการเรียนแว็กซ์ขน มีทั้งเรียนแว็กซ์แขน ขา คิ้ว รักแร้ บิกินี สำหรับลูกค้าที่ต้องการความรู้ด้านการแว็กซ์ขน มีคอร์สอบรม ครบวงจรมากขึ้น




รูปแบบการลงทุน
สำหรับการเปิดศูนย์แว็กซ์ขน
1. ลงทุน 2,900 บาท เป็นแพ็คเกจเล็กๆ ที่เหมาะกับร้านเสริมสวยหรือร้านเสริมความงามนำไปต่อยอดรายได้
2. ลงทุน 30,000 บาท สิ่งที่จะได้รับ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แว็กซ์ขน เคาน์เตอร์วางผลิตภัณฑ์ และยังได้สิทธิ์ พื้นที่ที่เปิดศูนย์ ได้อบรมฟรีแว็กซ์แขน แว็กซ์ขาและแว็กซ์บิกินี 
3. ลงทุน 50,000 บาท ขึ้นไป สิ่งที่จะได้รับ นอกจากได้เช่นเดียวกับแพ็คเกจ 30,000 บาทแล้ว ยังได้ สปาแขนและสปาขาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
      ทุกการลงทุนสามารถคืนทุนได้ภายใน 1 เดือน แต่หากเป็นทำเลที่ไม่ใช่แหล่งเงินทุน ต้องใช้เวลาหาลูกค้า อาจใช้เวลา 3-6 เดือน ลงทุนร้านเต็มรูปแบบ มีทั้งหมด 3 แพ็คเกจ  ได้แก่
1 . รูปแบบที่ 1 ลงทุน 100,000 บาท สำหรับผู้ที่คิดเปิดกิจการความงามอย่างเต็มรูปแบบ  สิ่งที่จะได้รับคือ ป้ายบอดี้แคร์ Express ติดฝาผนัง, ผลิตภัณฑ์กำจัดขนพร้อมอุปกรณ์สำหรับการขาย, ผลิตภัณฑ์ชุดหน้า และ ผลิตภัณฑ์ชุดตัว พร้อมส่งทีมงานเชียร์โปรโมชั่นให้ฟรี 2 วัน
2. รูปแบบที่ 2 ลงทุน 200,000 บาท สำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจกำจัดขนแบบเต็มรูปแบบ มีสถานที่อยู่ในทำเลที่เหมาะสม ซึ่งสำหรับคนที่สนใจการลงทุนแพ็คเกจนี้ สามารถติดต่อเข้ามาได้ตลอดเพื่อที่จะได้พูดคุยทำความเข้าใจในรายละเอียดกันต่อไป
3. รูปแบบที่ 3 ลงทุน 500,000 บาท เป็นแฟรนไชส์แว็กซ์ขนเต็มรูปแบบ โดย 1 จังหวัด มีเพียงเจ้าเดียวที่จะได้ตั้งศูนย์บอดี้แคร์ ทางบริษัทมีการตกแต่งร้านให้ ผลิตภัณฑ์มีให้ครบชุดตั้งแต่แว็กซ์คิ้ว,หน้า,หนวด,บิกินี




บทสรุปความเป็นมืออาชีพ
-ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
-ลงทุนเริ่มต้นเพียงหลักพัน สร้างกำไรถึงหลักหมื่น
-คืนทุนภายใน 1 เดือน  (ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง)
-มีรูปแบบการลงทุนให้เลือกหลากหลายรูปแบบตามความต้องการ
-บริษัทมีความน่าเชื่อถือ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 อย่างมั่นคง
-มีทีมงานคอยให้คำปรึกษากับแฟรนไชส์ทุกสาขา





เป้าหมายความสำเร็จปี 59
      ในปี 2559 ทางบริษัท บอดี้แคร์ มีการเพิ่มแว็กซ์อุ่นในไลน์ของสินค้า เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกในการใช้สินค้าที่ตอบปัญหาเรื่องขนมากที่สุด ทั้งยังมีการขยายธุรกิจด้วยการเปิดรับแฟรนไชส์ซีให้มีรูปแบบเดียวกันทุกสาขา เพื่อรักษามาตรฐานให้อยู่ในระดับเดียวกันทั้งหมด อีกทั้งยังมีคอร์สการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจเรียน ได้มาศึกษาก่อนจะลงมือทำธุรกิจเอง ตั้งเป้าในปี 2559 ขยายสาขาแฟรนไชส์ซีถึง 40-50 สาขา โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ส่งเสริมให้บริษัท บอดี้แคร์ ขยายสาขาในต่างประเทศ โดยจะเริ่มต้นจากกลุ่มประเทศใน AEC ทั้งหมด

ข้อมูลธุรกิจ
ชื่อธุรกิจ           บริษัท บอดี้แคร์ จำกัด
ประเภทธุรกิจ       ธุรกิจแว็กซ์ขน, สปา
รูปแบบการลงทุน   แฟรนไชส์, ศูนย์บอดี้แคร์
โทร               0-2260-5812, 0-2260-4778, 08-1484-2928
แฟกซ์             0-2260-4778
เว็บไซต์           www.บอดี้แคร์แว็กซ์ขน.com
เว็บไซต์           www.bodycarethailand.com
fb                www.facebook.com/bodywax


0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

A-Ki-Cha ชานมไข่มุกสัญชาติไต้หวัน ลงทุนเริ่มต้น 38,900



A-Ki-Cha ชานมไข่มุกสัญชาติไต้หวันลงทุนเริ่มต้น 38,900 !
พร้อมแตกไลน์แฟรนไชส์ กาแฟสด Coffee Time  by A-Ki-Cha  สร้างกำไร 100% !!!

โอกาสของธุรกิจชานมไข่มุกในปี 2559
      ชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ามีผู้ประกอบการธุรกิจชานมไข่มุกเกิดขึ้นหลายเจ้า ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีการสร้างรูปแบบชานมไข่มุกเฉพาะตัวเพื่อให้เป็นที่จดจำ ทั้งเรื่องของการคัดเลือกวัตถุดิบ รสชาติ คุณภาพ จนมีการแข่งขันกันสูง ชานมไข่มุก A-Ki-Cha (อะคิชะ) เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับการการันตีจากผู้บริโภค ว่าเป็นผู้นำด้านชาไข่มุกสูตรลับจากไต้หวัน และตอนนี้อะคิชะได้มีการขยายไลน์กิจการเปิดตัว แฟรนไชส์กาแฟสด Coffee Time by A-Ki-Cha อีกหนึ่งแฟรนไชส์ให้กับผู้ที่สนใจธุรกิจเครื่องดื่มได้ลงทุนกัน
      คุณณัฐชานันท์ อิทธิรัตน์ธนากร หรือคุณเจี๊ยบ เจ้าของ แฟรนไชส์ชานมไข่มุก A-Ki-Cha และแฟรนไชส์กาแฟสด Coffee Time by A-Ki-Cha สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยเสียงยืนยันหนักแน่นว่า “จะไม่ทอดทิ้งแฟรนไชส์ซีอย่างแน่นอน อย่างไรก็ต้องเติบโตไปด้วยกัน”ด้วยความจริงใจและการก้าวไปพร้อมๆ กับแฟรนไชส์ซีอย่างมั่นคง ทำให้ตอนนี้อะคิชะขยายสาขาไปกว่า 69 สาขาทั่วประเทศ อีกทั้งจุดเด่นของไข่มุก ที่มีความสดใหม่ เหนียว นุ่ม หนึบ เข้ากับรสชาติของชานมที่หอมหวาน กลมกล่อมได้เป็นอย่างดี สร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภค 




ชานมไข่มุกอะคิชะ คืนทุน 1-3 เดือน สร้างกำไร 100% เพิ่มแฟรนไชส์กาแฟสด ต่อยอดกลุ่มลูกค้า  
      การลงทุนกับแฟรนไชส์ชานมไข่มุกสามารถคืนทุนได้ภายใน 1-3 เดือน พร้อมรับกำไรสูงกว่า 100% ทางอะคิชะจะมีการออกแบบคีออสให้สวยงามโดดเด่นสะดุดตา ยังมีการวางระบบในการดูแลแฟรนไชส์ซี่ทั้งในเรื่องของการทำการตลาดด้วยการจัดโปรโมชั่นใหม่ๆ อยู่เสมอ และคิดรูปแบบการลงทุนที่เหมาะกับความสนใจของผู้ลงทุน รวมถึงการสอนทำชานมไข่มุกทุกสูตร ทั่วประเทศ พร้อมจัดหาทำเลให้กับผู้ที่ยังไม่มีพื้นที่ในการเปิดร้าน และจำกัดโซนในการขายอีกด้วย 




      สำหรับผู้ที่สนใจธุรกิจกาแฟ ก็สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง แฟรนไชส์กาแฟสด Coffee Time by A-Ki-Cha ได้ ในการลงทุนของกาแฟสดลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการทั้งการตั้งร้าน, คีออส, การตกแต่งร้าน สามารถปรึกษาอะคิชะได้เลย โดย Coffee Time by A-Ki-Cha เน้นเมนูกาแฟเกรดพรีเมี่ยม คัดสรรอย่างดีจากไร่ และยังมีเครื่องดื่มอย่างอิตาเลียนโซดา นมสด ชาไทย และอีกหลากหลายเมนูให้ลูกค้าเลือกซื้อ สำหรับราคากาแฟสดของอะคิชะ เริ่มต้นเพียง 30, 35, 40 บาทต่อแก้วเท่านั้น ใช้ระยะเวลาในการคืนทุนไม่เกิน 3 เดือน หากทำเลดี เพียง 1 เดือนก็สามารถคืนทุนได้แล้ว และยังสร้างกำไรมากถึง 65% เลยทีเดียว !




รูปแบบการลงทุน
      Set A ราคา 38,900 บาท
      Set B ราคา 42,900 บาท 
      ไม่มีเคาน์เตอร์, ป้ายหน้าร้าน 1 ใบ + ป้ายเมนู 1 ใบ + ธงญี่ปุ่น 1 ผืน,ถังพักชา 2 ถัง  Set นี้ มาพร้อมวัตถุดิบและอุปกรณ์เริ่มต้นธุรกิจกว่า 60 รายการพร้อมของแถมมากมายที่สร้าง มูลค่าได้ถึง 8,900 - 12,900 บาท (ราคานี้ไม่รวมเคาน์เตอร์)
      Set C ราคา 54,900
      Set D ราคา 58,900
      เคาน์เตอร์ ขนาด 1.5 เมตร, ถังพักชา  2 ถัง Set นี้ มาพร้อมวัตถุดิบและอุปกรณ์เริ่มต้นธุรกิจกว่า 60 รายการ พร้อมของแถมมากมายที่สร้างมูลค่าได้ถึง 20,000 บาท (ราคานี้รวมเคาน์เตอร์แล้ว)
      Set E ราคา 82,900
      Set F ราคา 88,900
      ซุ้มน็อคดาวน์ ขนาด 1.8 เมตร, ถังพักชา 2 ถัง Set นี้ มา พร้อมวัตถุดิบและอุปกรณ์เริ่มต้นธุรกิจกว่า 60 รายการ พร้อมของแถมมากมาย (ราคานี้รวมซุ้มน็อคดาวน์แล้ว)





บทสรุปความเป็นมืออาชีพ
-ปี 2559 ขยายสาขาทั่วประเทศ
-สร้างกำไร 100 %            
-รสชาติชาและไข่มุกเป็นสูตรแท้จากไต้หวัน
-รสชาติหลากหลาย กว่า 30 รสชาติ และมีแก้วหลายไซส์ให้เลือก
-ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย
-มีการทำตลาด และออกโปรโมชั่นใหม่อย่างสม่ำเสมอ ไม่หยุดนิ่ง
-ขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมดูแลแฟรนไชส์ซี่อย่างจริงใจ
-จัดหาทำเลให้แฟรนไชส์ซี่ และให้คำปรึกษาทุกขั้นตอน






 เป้าหมายความสำเร็จปี 2559  
      ในปี 2559 อะคิชะวางแผนขยายธุรกิจแฟรนไชส์ทั่วประเทศ หากใครที่กำลังมองหาธุรกิจเครื่องดื่ม อะคิชะ มีให้ท่านเลือกทั้งชานมไข่มุกและแฟรนไชส์กาแฟสด สามารถเลือกได้ตามความสนใจ และทางอะคิชะยินดีให้คำปรึกษาในทุกเรื่อง พร้อมเติบโตไปด้วยกัน

ข้อมูลธุรกิจ
ชื่อธุรกิจ        A-Ki-Cha “อะคิชะชานมไข่มุก”
ประเภทธุรกิจ   แฟรนไชส์ชานมไข่มุกและแฟรนไชส์กาแฟสด
ติดต่อ          ศูนย์กทม. ซ.งามวงศ์วาน 54 ตรงข้าม ม.เกษตรศาสตร์
                   ศูนย์ขอนแก่น  (ติดมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝั่ง U-Plaza)
                    420/5 ต.ศิลา จ.ขอนแก่น 40002
โทร.           08-5696-3828                 
line+วอทแอพ   0856963828                                                   
fb             www.facebook.com/akichamilktea

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

นักศึกษาอายุ 18 ปี จับธุรกิจเครือข่าย CNI ลงทุน 3,600 บาท


**นักศึกษาอายุ 18 ปี จับธุรกิจเครือข่าย CNI ลงทุน 3,600 บาท
สร้างรายได้กว่า 300,000 บาท ในเวลาเพียง 6 เดือน!!!!**


โอกาสธุรกิจ เครือข่ายในปี 2559
      ธุรกิจขายตรงถือเป็นธุรกิจที่สวนกระแสสภาวะเศรษฐกิจตลอดเวลา แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ธุรกิจนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่มีผู้สนใจเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายอิสระจำนวนมาก ส่งผลให้ขายสินค้าได้มากตามไปด้วย ดังนั้นนับว่าเป็นธุรกิจที่ยังคงมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ภายใต้มูลค่าการตลาดเกือบแสนล้านบาท ล่าสุดบริษัท ครีเอทีฟ เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CNI บริษัทที่ทำการตลาดเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ได้เจาะตลาดในเมืองไทย หวังขยายกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นธุรกิจสมัครสมาชิกเพียง 3,600 บาท เผยได้รับการตอบรับที่ดี เปิดตลาดเพียง 8 เดือน สมาชิกกว่า 20,000ราย


CNI เริ่มต้นธุรกิจง่ายๆ ลงทุนเพียง 3,600 บาท CNI เริ่มต้นธุรกิจง่ายๆ
ลงทุนเพียง 3,600 บาท สร้างรายได้เพียบ   
      คุณภควัต พลมณี หรือ คุณรอม นักธุรกิจเครือข่าย บริษัท ครีเอทีฟ เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CNI กล่าวว่า ปัจจุบันอายุเพียง 18 ปี เรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยส่วนตัวไม่เคยทำธุรกิจเครือข่ายมาก่อน แต่ก็สนใจในธุรกิจเครือข่ายพอสมควร จึงได้ไปฟังการบรรยายเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายมาหลายบริษัท ซึ่งทำให้มองเห็นว่าธุรกิจนี้หากเราทำถูกวิธี สามารถสร้างรายได้ให้เราอย่างมั่นคง และมีรายได้ดีเมื่อเทียบกับอาชีพอื่นๆ ดังนั้น จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับ CNI โดยเริ่มเข้ามาทำธุรกิจเครือข่ายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทะลุเป้าที่วางไว้ค่อนข้างมาก ซึ่งทำธุรกิจเพียง 6 เดือนเท่านั้น แต่สามารถทำรายได้รวมกว่า 300,000 บาท




      โดยสาเหตุที่ตัดสินใจเลือกทำกับ CNI เนื่องจากบริษัทให้ผลตอบแทนที่ดี สามารถทำการตลาดง่ายขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมีสามารถใช้ได้กับทุกเพศ ทุกวัย ที่สำคัญ CNI ยังเป็นบริษัทที่ทำการตลาดเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย มีสาขาอยู่ 8 ประเทศทั่วโลก โดยบริษัทแม่จะอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 30 แล้ว และยังได้รับรางวัลต่างๆมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถการันตีมาตรฐานของบริษัทได้
      “ผมมองว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่ไม่ยากอย่างที่คิด จะยากในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น แต่หากเราเข้าใจระบบต่างๆแล้วจะทำงานไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งธุรกิจเครือข่ายของ CNI เข้าใจปัญหาตรงจุดนี้จึงมีการวางระบบต่างๆให้สมาชิกเข้าใจง่าย เป็นธุรกิจที่วางระบบไว้เป็นอย่างดี มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม ซึ่งอัพไลน์จะมีการช่วยเหลือและสนับสนุนโดยตลอด ดังนั้นเพียงแค่เราทำธุรกิจตามระบบ ศึกษาข้อมูลต่างๆของบริษัทโดยละเอียด ทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์ต่างๆก็จะสามารถต่อยอดธุรกิจได้”
      สุดท้ายนี้อยากฝากถึงคนที่กำลังหางานหรืออยากมีรายได้เสริมว่า อยากให้ลองเข้ามาศึกษาข้อมูลในระบบเครือข่าย ดู แล้วจะรู้ว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่ดี เป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคง เพียงแต่เราต้องเรียนรู้ระบบให้เข้าใจแล้วทำให้ถูกวิธี แล้วคุณจะประสบความสำเร็จธุรกิจนี้อย่างแน่นอน ซึ่งหากใครสนใจในธุรกิจนี้เราก็พร้อมให้คำปรึกษาอย่างเต็มที่




รูปแบบการลงทุนและสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ
      สามารถสมัครได้ทั้งจากทางตรงและทางสมาชิกต่างๆ โดยจะมีแพ็กเกจให้เลือก 4 แบบ คือแพล็ตตินั่ม, ไดมอนด์, โกลด์ ,ซิลเวอร์ ซึ่งจะมีราคาที่แตกต่างกัน และให้ผลตอบแทนที่ต่างกัน ทั้งนี้ในส่วนผู้ที่มีงบลงทุนน้อย อยากลองเข้ามาศึกษางาน ขณะนี้ทางบริษัทได้มีโปรโมชั่นเริ่มต้นลงทุนแค่หลัก 3,600 บาทเท่านั้น




บทสรุปความเป็นมืออาชีพ
-เป็นธุรกิจที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเสมอภาค สามารถทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จได้ใกล้เคียงกัน
-บริษัทขายตรง อันดับ 1 เอเชีย เปิดดำเนินธุรกิจมาแล้ว 29 ปี มีสาขาอยู่ 8 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย ไนจีเรีย เวียดนาม บรูไน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และล่าสุดในประเทศไทย
-CNI เป็นบริษัทที่ทำการตลาดเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย มี 8 สาขาทั่วโลก โดยบริษัทแม่จะอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 30
-เป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคง เพียงแต่เราต้องเรียนรู้ระบบให้เข้าใจแล้วทำให้ถูกวิธี
-ผลตอบแทนของบริษัท CNI นั้นมี 5 ช่องทาง คือ 1. ค่าแนะนำคนใหม่เข้าสู่ธุรกิจ ซึ่งจะได้ค่าแนะนำ 20% 2.ค่าบริหารองค์กร บริหารยอดขายทีม 3.ค่าสร้างผู้นำ 4. รายได้ส่วนลดจากยอดซื้อส่วนตัว 5.จากการซื้อซ้ำในแต่ละเดือน
-มีทีมงานที่คอยอบรม คอยดูแล ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด





เป้าหมายความสำเร็จในปี 2559
      สำหรับการตั้งเป้าในอนาคตนั้น เราเตรียมที่จะผลักดัน สนับสนุนสมาชิกของทีมทุกคนให้สามารถขยายฐานสมาชิกให้มากยิ่งขึ้น และจะมีทีมงานคอยอบรม ให้คำปรึกษา คอยดูแลให้ทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยอยากให้ลองเข้ามาศึกษาข้อมูลในระบบเครือข่าย แล้วจะรู้ว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่ดี เป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคง เพียงแต่เราต้องเรียนรู้ระบบให้เข้าใจแล้วทำให้ถูกวิธี แล้วคุณจะประสบความสำเร็จธุรกิจนี้อย่างแน่นอน ซึ่งหากใครสนใจในธุรกิจนี้เราก็พร้อมให้คำปรึกษาอย่างเต็มที่

ข้อมูลธุรกิจ
ชื่อกิจการ       บริษัทครีเอทีฟ เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
ประเภทกิจการ  ขายตรง
ติดต่อ         219/48-50 ฃั้น 15 อาคารตึกอโศกทาวเวอร์ ซอยอโศก ถนนสุขุมวิท 21 กรุงเทพ ประเทศไทย 10110
โทร            09-8401-9771 
เว็บไซต์     www.cnithailand.com
ไลน์           tigerrom

1 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

Super Star ชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำ คุณภาพที่ร้านค้าออนไลน์วางใจ



Super Star ชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำ คุณภาพที่ร้านค้าออนไลน์วางใจ การันตีสร้างกำไรถึง 60% !!

โอกาสธุรกิจชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำในปี 2559 
          ชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำจากร้าน Super Star ของคุณเล็กกี้หรือ คุณรุ่งทิพาพร วัชราวนิชกุล เจ้าของร้านSuper Star เกิดจากความชอบส่วนตัว เมื่อครั้งที่คุณเล็กไปเจอชุดชั้นในสวยๆ ที่ต่างประเทศ เห็นว่ามีลวดลาย การดีไซน์ที่สวยงาม จึงมีความคิดที่อยากทำธุรกิจชุดชั้นในเป็นของตัวเอง ประกอบกับชุดชั้นในลายสวยๆ แปลกใหม่ในเมืองไทยยังมีน้อย จึงตัดสินใจเริ่มต้นขายที่แพลทินัมเป็นที่แรก
          ในช่วงเริ่มแรกของธุรกิจ มีการลองผิดลองถูกมาหลายต่อหลายครั้ง หมดเงินลงทุนไปหลายหน แต่คุณเล็กกี้ก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค กัดฟันตั้งใจทำร้าน Super Star จนประสบความสำเร็จมาจนเข้าสู่ปีที่ 7 แล้ว หลังจากนั้นก็ได้ชุดชั้นในสไตล์ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี มาขาย โดยเริ่มศึกษาจากเว็บของประเทศไต้หวัน ว่ามีสินค้าอะไรที่กำลังเป็นที่นิยม และยังได้ความรู้จากแม่ค้าขายชุดชั้นใน ที่เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมมาขายชุดชั้นในสไตล์ใหม่ๆว่าตัวไหน ขายดี ขายไม่ดี จนเริ่มมีการออกความคิดเห็นในขั้นตอนการผลิตSuper Star ร้านขายชุดชั้นในครบวงจร เอาใจใส่ตัวแทนจำหน่าย


สร้างความเชื่อมั่น พร้อมสินค้าหลากหลาย รับประกันคุณภาพ

          คุณเล็กกี้เล่าว่า สำหรับธุรกิจชุดชั้นใน Super Star ในช่วงแรกๆ นั้น ทางบริษัทมีการแจกรูปนางแบบให้แม่ค้าที่มารับไปขาย เพราะลูกค้าเห็นรูปจะซื้อและมีการแจกมาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อให้สินค้าขายดี ชุดชั้นในของทาง Super Star เป็นแนวเกาหลี ญี่ปุ่น แล้วจึงค่อยๆแตกไลน์ออกเป็นสปอร์ตบรา หรือชุดชั้นในไร้ขอบ ไร้ตะเข็บ กางเกงคู่ ชุดว่ายน้ำบิกินี่ ชุดคอสเพลย์ต่างๆ บราซิลิโคน บราปีกนก บราผีเสื้อเชือกรูด เรียกได้ว่าสินค้าของร้าน Super Star เป็นร้านชุดชั้นในครบวงจร และมีการอัพเดทแบบใหม่ทุกสัปดาห์ในกรุ๊ป Line แม่ค้าของเรากว่า 400 คน   
          คุณเล็กกี้เสริมอีกว่า มีหลายร้านหลายบริษัทที่เริ่มขายสินค้าเหมือนเราทำการตลาดรูปแบบแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการเปิดร้านเพื่อขายแค่ทางออนไลน์ แต่อยู่ได้ไม่ได้นาน เพราะต้องมีสายป่านมีคอนเนคชั่นที่ดีกับทางโรงงานผู้ผลิต และต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าได้ ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าร้านจะอยู่อีกนาน สำหรับร้าน Super Star หากลูกค้าเจอปัญหาว่าสินค้ามีตำหนิ ทางร้านก็ยินดีเปลี่ยนให้ทันที 




รูปแบบการลงทุน
          ชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำ Super Star ตอบโจทย์ผู้ที่อยากหารายได้เสริมหรือคนที่ไม่ค่อยมีทุน รองรับการขายส่งให้กับแม่ค้าที่นำไปขายปลีกอีก
ทอดหนึ่ง  ลงทุนด้วยการเปิดบิลครั้งแรก 24 ตัว คละแบบได้ ครั้งต่อไปเติมของเพียง 6 ชิ้น หรือคนที่ต้องการขายออนไลน์  ก็สามารถสมัครสมาชิกเพียง 599 ก็จะสามารถซื้อสินค้าราคาตัวแทนและฝากส่งในนามคุณได้




บทสรุปความเป็นมืออาชีพ
-นำเข้าชุดชั้นในแบรนด์ Vineco ตามแหล่งท่องเที่ยว สินค้ามาจากทางร้านแทบจะทั่วประเทศ
-สินค้าโดดเด่นทุกสไตล์ การันตีคุณภาพด้วยร้านค้าออนไลน์มารับไปขายมากกว่า 50%
-มีรูปแบบของสินค้าให้เลือกอย่างหลากหลาย กว่า 3,000 รายการ
-ร้านมีมาตรฐานในเรื่องของสินค้าที่ได้คุณภาพ ลูกค้าให้ความเชื่อมั่น
-ซื้อสินค้าจากทางร้านในราคาที่ถูก จากผู้ผลิตโดยตรง นำไปขายได้กำไรสูง






เป้าหมายความสำเร็จในปี 2559
          ในอนาคตทางร้าน Super Star จะมีการแตกไลน์แฟชั่นชุดว่ายน้ำมากขึ้น ซึ่งตอนนี้มีการวางแผนธุรกิจกับเจ้าของโรงงานรายใหญ่ที่สุดในเมืองจีนเพื่อขยายตลาด และมั่นใจว่าจะมีลายชุดว่ายน้ำที่เยอะที่สุดในเมืองไทย และราคาถูกที่สุดด้วย นี่คือแผนที่วางต่อไป
          หลังจากลายชุดชั้นในติดตลาดแล้ว ส่วนตลาดต่างประเทศก็มีการเข้ามาปรึกษา พูดคุยกัน  แต่ต้องใช้เวลา เพราะต้องหาสินค้าที่เหมาะกับตลาด ไลฟ์สไตล์ วิถีชีวิตของประเทศนั้นๆ ซึ่งแผนการตลาดสำหรับปี 2559 จะ worldwide มากขึ้น มีการอัพเดททางเว็บไซต์ แฟนเพจที่มีคนกดไลค์กว่าแสนคน 
          สำหรับกลุ่มลูกค้าของร้าน Super Star จะเป็นวัยรุ่นและวัยทำงาน  ช่วงอายุประมาณ 18-40 ปี กลุ่มที่มาซื้อส่วนใหญ่เป็นวัยนักศึกษาจนถึงวัยทำงาน หรือกลุ่มคนที่มาซื้อชุดคอสเพลย์เพื่อนำไปใช้ในงานสังสรรค์ตามโอกาส

ข้อมูลธุรกิจ
ชื่อกิจการ Super Star
ประเภทกิจการ     ขายปลีก-ขายส่ง ชุดว่ายน้ำ ชุดชั้นใน
ติดต่อ         - สมูทลี่บรา จำกัด 13/5 ซ.อนามัยงามเจริญ 33 แขวงท่าข้ามเขตบางขุนเทียน กทม. 10150
                   - แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ร้าน Superstar ชั้น 2 ซอย 8 ห้อง 558,
                   ร้าน Japanbra-bikini ชั้น 1 ห้อง 360 (หน้าลิฟต์เบอร์ 8)
โทร.          08-1721-1951
เว็บไซต์   www.superstarlady.com
fb            Superstar Online-บราซิลิโคน บราปีกนก ชุดชั้นใน
fb            minnie bikini
line         Lekkysuperstar


0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

Khanittar Group รับสร้างแบรนด์ด้านความสวยความงามอย่างครบวงจร


Khanittar Group รับสร้างแบรนด์ด้านความสวยความงามอย่างครบวงจร 
ตอบโจทย์นักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมดูแลด้านการตลาดอย่างมืออาชีพ

โอกาสของธุรกิจเครื่องสำอางในปี 2559
        ปัจจุบันตลาดเครื่องสำอางถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง จากมูลค่าการตลาดกว่าหนึ่งแสนล้านบาท แต่ถึงแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจหรือการเมืองจะเป็นอย่างไร ก็ไม่สามารถฉุดหรือส่งผลต่ออัตราการเติบโตของตลาดความงามให้ลดลงได้ และกระแสความนิยมยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะสินค้าในกลุ่มนี้เป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน กลายเป็นปัจจัย 4 ที่ทุกคนต้องใช้ไปแล้ว ดังนั้นธุรกิจนี้จึงถือว่าเป็นธุรกิจที่ไม่มีวันตายอย่างแน่นอน ขนิษฐา กรุ๊ป เชื่อว่าในปี 59 นี้ ธุรกิจความงามก็ยังจะเติบโตสวนทุกกระแส เพราะตราบใดที่คนเรา โดยเฉพาะสาวๆ ยังคงชื่นชอบการมีสุขภาพผิวหน้าที่ดี และให้ความสำคัญกับการใส่ใจดูแลผิวพรรณ ธุรกิจที่เกี่ยวกับความงามก็ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน


ขนิษฐา กรุ๊ป รับสร้างแบรนด์อย่างมืออาชีพ พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยตัวเอง
      คุณขนิษฐา กุลสุมิตราวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ขนิษฐา เรียลบิวตี้ คอสเมติก จำกัด เปิดเผยถึงความเป็นมาของการทำขนิษฐากรุ๊ปว่าโดยส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบในด้านการทำธุรกิจเครื่องสำอาง และอยากมีแบรนด์เป็นของตัวเอง แต่การเริ่มต้นการสร้างแบรนด์จำเป็นที่จะต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง และโอกาสเสี่ยงไม่ประสบความสำเร็จก็มีสูงเช่นกัน ทำให้หลายๆ คนไม่กล้าที่จะลงทุนสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ซึ่งเราเองก็กังวลในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน จึงได้มีการศึกษาข้อมูลและมองหาแนวทางในการสร้างแบรนด์ในราคาที่ไม่แพงแต่มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดี ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทสามารถหาโรงงานผลิตที่สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้แล้ว โดยได้ร่วมมือกับทางโรงงานผลิตในการผลิตสินค้าในปริมาณน้อยลง แต่คุณภาพได้มาตรฐาน เพื่อที่จะลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิต




      “เราพบว่าแนวทางนี้จะสามารถลดต้นทุนสำหรับผู้ที่สนใจที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ จึงตัดสินใจเปิดเป็น OEM ขึ้น เพื่อรับจ้างผลิตแบรนด์และทำการตลาดอย่างครบวงจร ซึ่งการทำการตลาดแบบครบวงจร สามารถการันตีได้ว่าสินค้าที่ผลิตกับทางบริษัทสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ได้ โดยขณะนี้ทางบริษัทรับผลิตอย่างครบวงจรไม่ว่าจะเป็นเซ็ตบำรุงผิว เช่น สบู่ โลชั่นผิวกาย โลชั่นผิวหน้า เซรั่มผิวหน้า โทนเนอร์ โฟมล้างหน้า สบู่อาบน้ำ สบู่เหลว ยาสระผม ครีมทาหัวนมชมพู เซตอาหารเสริมลดน้ำหนัก สเต็มเซลล์ กลูต้าไทโอน คอลลาเจน เมคอัพ ซึ่งถือว่าครบวงจรด้านความสวยความงามอย่างแท้จริง”




      คุณขนิษฐาเผยต่อว่า สำหรับมาตรฐานในการผลิตนั้นทางบริษัทได้คำนึงในด้านนี้เป็นอย่างมาก สินค้าทุกอย่างที่ผลิตจากขนิษฐากรุ๊ปจะต้องมี อย. รับรอง แต่ถ้าหากเป็นอาหารเสริมก็จะมี GMP รับรองมาตรฐาน และหากต้องการใบรับรองจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ทางบริษัทก็สามารถจัดทำให้ได้เช่นกัน ดังนั้นมั่นใจได้ถึงมาตรฐานความปลอดภัยอย่างแน่นอน สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการของขนิษฐากรุ๊ปในการสร้างแบรนด์และทำการตลาดนั้นมีตั้งแต่นักศึกษาที่อยากมีธุรกิจของตัวเอง ไปจนถึงกลุ่มวัยทำงาน ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีความรู้ก็สามารถทำได้ เพราะบริษัทพร้อมจะเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำปรึกษาในการธุรกิจอย่างใกล้ชิด




รูปแบบของธุรกิจและสิทธิประโยชน์
      สำหรับผู้สนใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง จะมีหลากหลายราคา โดยเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน ซึ่งราคาจะอยู่ที่สินค้าที่ลูกค้าต้องการผลิต

บทสรุปความเป็นมืออาชีพ
-สามารถการันตีได้ว่า สินค้าที่ผลิตกับทางบริษัทสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ได้
-สร้างแบรนด์ในราคาที่ไม่แพง แต่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพที่ดีมีมาตรฐานรับรอง
-ทีมงานมีประสบการณ์จริง เคยผ่านการสร้างแบรนด์มาก่อน
-บริษัทรับผลิตอย่างครบวงจรไม่ว่าจะเป็นเซ็ตบำรุงผิว เซ็ตอาหารเสริม เมคอัพ ซึ่งถือว่าครบวงจรด้านความสวยความงามอย่างแท้จริง
-บริษัทพร้อมเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา ตั้งแต่ขั้นตอนผลิต จนถึงขั้นตอนวางจำหน่าย
-สามารถผลิตน้อยได้ มีงบหลักพันก็สามารถมีแบรนด์เป็นของตัวเองได้ 




เป้าหมายความสำเร็จในปี 2559
      สำหรับเป้าหมายในปี 2559 นั้น ทางขนิษฐากรุ๊ปพร้อมที่ผลักดันลูกค้าที่รับสร้างแบรนด์กับเราอย่างเต็มที่ โดยเตรียมที่จะปรับปรุงพัฒนาข้อมูลต่างๆ อยู่ตลอดเวลาในส่วนของการตลาดนั้นทางบริษัทจะเน้นในด้านของการตลาดในรูปแบบโซเชียลให้มากขึ้น โดยจะมีทีมงานคอยอัพเดทข้อมูลอยู่เสมอ เพื่อที่จะสามารถแข่งขันในธุรกิจนี้ได้

ข้อมูลธุรกิจ
ชื่อธุรกิจ  บริษัท ขนิษฐา เรียลบิวตี้ คอสเมติก จำกัด
ประเภท   รับผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริมแบบครบวงจร พร้อมดูแลการตลาด
ติดต่อ 99/257 โครงการ Casa premium ซ.16 หมู่ 5 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทร   06-2961-1682
line   @khanittar_group

4 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

ที-โบน สเต็กเฮ้าส์ ลงทุนเริ่มต้น 65,000 พร้อมขายทันที


ที-โบน สเต็กเฮ้าส์ ลงทุนเริ่มต้น 65,000 พร้อมขายทันที!
ตั้งเป้าขยาย 100 สาขา เจาะกลุ่มลูกค้าแฟรนไชส์ AEC

โอกาสของธุรกิจที-โบนสเต็กในปี 59
      ร้านที-โบน สเต็กเฮ้าส์ ก่อตั้งกิจการขึ้นในปี 2546 เริ่มที่จังหวัดขอนแก่น ถ.มิตรภาพ เป็นสาขาแรก โดยคุณพภพล-คุณวรรณเพ็ญ เกษมสันต์ ณ อยุธยา  ซึ่งมีความชื่นชอบการรับประทานสเต็กในสไตล์ต่างๆ เป็นอย่างมาก  จนได้ไปเรียนการทำสเต็กจากสถาบันชื่อดังในสมัยนั้น และได้นำทักษะเทคนิคต่างๆที่เรียนมาปรับปรุงรูปแบบและรสชาติให้ตรงกับความต้องการของตลาดและกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
      ด้วยสไตล์การปรุงรสที่เป็นเอกลักษณ์ของที-โบน สเต็กเฮ้าส์   อีกทั้งรูปแบบการนำเสนอสินค้าโดยให้บริการในสไตล์ สเต็กบุฟเฟ่ต์เป็นเจ้าแรกๆ ของเมืองไทย ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 99 บาท/ท่าน เท่านั้น จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าและได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน 



มั่นใจด้วยประสบการณ์ด้านสเต็กกว่า 12 ปี พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเป็นเจ้าของกิจการ
      จากแรงผลักดันและเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ที-โบน สเต็กเฮ้าส์ จึงได้ขยายกิจการเป็นสาขาที่ 2 ที่จังหวัดนครราชสีมาในปี 2553 โดยให้บริการในรูปแบบของบุฟเฟ่ต์สเต็ก บริหารงานโดยคุณอารีญาภรณ์ สนั่นเมือง หรือคุณเงาะ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน
      ด้วยประสบการณ์ด้านสเต็กที่มีมายาวนาน กว่า 12 ปี ด้วย 2 สาขาใหญ่ 1 สาขาย่อยที่ตลาดนัดเซฟวัน จ. นครราชสีมา  มีปริมาณการใช้วัตถุดิบจำนวนมากเพียงพอต่อการผลิตเพื่อการขายส่ง  คุณอารีญาภรณ์จึงเกิดแนวความคิดที่จะเปิดโอกาสทางธุรกิจ โดยให้สิทธิกับผู้ที่สนใจในอาชีพเสริมรายได้เปิดเป็นเจ้าของกิจการร้านสเต็กได้ถือสิทธิการใช้ชื่อ,ตราสินค้าและวัตถุดิบ ในรูปแบบของแฟรนไชส์สเต็ก โดยใช้ชื่อ ที-โบน สเต็กบ๊อกซ์ โดย ที-โบนสเต็กเฮ้าส์  เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและเพื่อบริการให้กับลูกค้าได้ทั่วถึงทั้งประเทศ รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากเปิดให้สิทธิ์แฟรนไชส์ ได้เพียง 6 เดือน ได้ผลตอบรับดีเกินคาด ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนแฟรนไชส์ทั้งหมด 16 สาขาทั่วประเทศ




เป้าหมายความสำเร็จในปี 2559
      ที-โบน สเต็กเฮ้าส์เชื่อว่าตลาดคู่แข่งขันในราคาส่งที่เทียบเท่ากัน มีผู้ประกอบการน้อยรายที่จะตระหนักถึงความสำคัญในเครื่องมือในการผลิต  จึงทำให้เรามีข้อแตกต่างและมีมาตรฐานคุ้มเกินราคา จึงทำให้แต่ละจานที่เสิร์ฟถึงลูกค้ามีคุณภาพ คุ้มราคามากที่สุด  อีกทั้งต้องการสื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอนอย่างแท้จริงจนสามารถต่อยอดธุรกิจไปถึงการจำหน่ายส่งและแฟรนไชส์ได้
      ในปี 2559 ที-โบน สเต็กเฮ้าส์เน้นในด้านการขายส่ง ที่จะขยายเพิ่มมากขึ้นคู่กับแฟรนไชส์ที่ตั้งเป้าขยาย 50-100 สาขาทั่วประเทศ เพิ่มเมนูอาหารให้หลากหลายมากขึ้น แต่ยังมีความดั้งเดิมของที-โบน สเต็กเฮ้าส์อยู่ มีอาหารฟิวชั่นมากขึ้น สปาเก็ตตี้ 40 ซอส ข้าวซอสไทย ของทอด ของทานเล่น ที่ที-โบน สเต็กเฮ้าส์ทำเองทั้งหมด  ส่วนสเต็กบุฟเฟ่ต์มีแพลนจะทำสเต็กบุฟเฟ่ต์เกรดพรีเมี่ยม
      และเพื่อเป็นการต้อนรับการเปิด AEC  ตอนนี้ที-โบน สเต็กเฮ้าส์ มีลูกค้าเวียดนาม ลาว พม่า กัมพูชาเป็นลูกค้าแฟรนไชส์ ซึ่งมีการเข้ามาติดต่อและอยู่ในช่วงดำเนินการเรื่องกฎหมาย ในการเปิดร้านในปี 2559 รับรองว่าจะได้เห็นแฟรนไชส์ที-โบน สเต็กเฮ้าส์ในประเทศเพื่อนบ้านแน่นอน




จุดเด่นของแฟรนไชส์
l การคัดเลือกวัตถุดิบทุกชิ้นส่วนต้องได้มาตรฐานจากฟาร์มและโรงตัดแต่งโดยตรง  
l ใช้เครื่องมือที่เป็นมาตรฐานในการผลิตอาหารแช่แข็ง  เช่น  เครื่อง blast chiller เพื่อลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว, ปลอดเชื้อ, ไม่เป็นผลึก, ไม่สูญเสียความชื้นและคุณค่าสารอาหาร  
l เครื่อง Sous Vide สามารถควบคุมระดับความสุกทั่วถึงเท่ากันทั้งชิ้น โดยไม่สูญเสียคุณค่าสารอาหารและความชื้น  รวมถึงการแพ็คซีลสุญญากาศชิ้นต่อชิ้น   







บทสรุปความเป็นมืออาชีพ
จุดขายทางการตลาด
l รูปลักษณ์ของหน้าร้านโดดเด่น ดึงดูดความสนใจของลูกค้า
l รสชาติเป็นมาตรฐาน พิถีพิถันในการปรุงรสสเต็กให้เป็นเอกลักษณ์ถูกปากคนไทยและชาวต่างชาติ
l คุณภาพวัตถุดิบชั้นเลิศ ใหม่ สด สะอาด คัดสรรเนื้อชั้นดี เพื่อมาตรฐานและเก็บรักษาได้นาน
l ความเป็นมืออาชีพ ในงานบริการด้านสเต็กมากว่า 12 ปี เข้าใจทุกปัญหาของร้านสเต็ก
l มีความหลากหลายของเมนูสเต็กและเครื่องเคียง ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับกระแสอยู่เสมอ
l อิ่มไม่จำกัดจำนวนชิ้น  ไม่จำกัดเวลา


ข้อมูลธุรกิจ
ชื่อธุรกิจ            ที-โบน สเต็กเฮ้าส์
ประเภทธุรกิจ     แฟรนไชส์ - ขายส่ง
โทร           08-1725-5843, 044-296808
ติดต่อ         ร้านที-โบน สเต็กเฮ้าส์  1177/1 ถ.สุรนารายณ์
                   ต.ในเมือง  อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000
เว็บไซต์      www.tbonesteakhouse.net
email      areeyaporns@gmail.com
line         areeya.id
 fb         tbonesteakhousekorat, tbonesteakbox


0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

“โจ๊กหมูเจ้านาย” อร่อย ทำง่าย ไม่มีค่าแฟรนไชส์


“โจ๊กหมูเจ้านาย” อร่อย ทำง่าย ไม่มีค่าแฟรนไชส์
ตอบโจทย์ทุกทำเล รสชาติไม่ซ้ำใคร กำไรกว่า 50 %

โอกาสของธุรกิจอาหารในปี 2559  
      หากติดตามข่าวคราวในวงการธุรกิจของบ้านเรา จะเห็นได้ชัดเจนว่าผลการวิจัยศึกษาของสถาบันหรือหน่วยงานไหนๆ มักระบุตรงกันว่าธุรกิจอาหารยังเป็นธุรกิจดาวรุ่งมาโดยตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้นหรือขาลงก็ตาม ส่วนหนึ่งเพราะอาหารเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน อีกทั้งสังคมเมืองปัจจุบันที่ผู้คนต้องรีบเร่งออกไปทำงานนอกบ้านตั้งแต่เช้ายันค่ำ ไม่มีเวลาปรุงอาหารเอง จึงมีความจำเป็นต้องพึ่งพาร้านอาหารใหญ่น้อยทั้งหลายมากขึ้น
      โจ๊กหมูเจ้านาย โจ๊กแห้ง โจ๊กกุ้ง โจ๊กปลาดอลลี่ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในปัจจุบัน ด้วยรสชาติที่อร่อย กลมกล่อมและมีวัตถุดิบอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังเป็นอาหารที่หาทานง่าย สะดวก ราคาไม่แพง และเต็มไปด้วยคุณประโยชน์ ดังนั้นธุรกิจโจ๊กจึงเป็นธุรกิจที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากโจ๊กหมูเจ้านาย ตอบโจทย์ทุกทำเล



      คุณรณกร สันหกรณ์ เจ้าของแฟรนไชส์โจ๊กหมูเจ้านาย เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของการธุรกิจแฟรนไชส์ว่าได้ลาออกจากการเป็นพนักงานธนาคารเพื่อมองหาธุรกิจเป็นของตัวเอง ในช่วงปี พ.ศ. 2552 โดยตัดสินใจเริ่มต้นเปิดร้านขายโจ๊กหมู เนื่องจากได้สูตรทำโจ๊กจากเพื่อน ซึ่งมีรสชาติอร่อยน่าจะสามารถขายได้ จึงตัดสินใจเปิดร้านเล็กๆ ย่านซอยเสนาขึ้น โดยสาเหตุที่ตัดสินใจเปิดร้านโจ๊ก เนื่องจากโจ๊กเป็นเมนูที่ทำง่าย ต้นทุนน้อย ราคาไม่แพง สามารถเก็บรักษาง่ายกว่าธุรกิจอาหารทั่วไป และที่สำคัญเป็นอาหารที่สามารถทานได้ทุกเวลา ทุกเพศ ทุกวัย
      โจ๊กหมูเจ้านายนั้นมีหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นโจ๊กใส่ไข่ โจ๊กไข่เค็ม โจ๊กแห้ง โจ๊กกุ้ง โจ๊กไข่เยี่ยวม้า ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีลูกค้าเข้ามาทานอย่าสม่ำเสมอ สร้างยอดขายไม่ต่ำกว่า 5,000 บาทต่อวัน ทำให้เราเริ่มมองเห็นช่องทางที่จะขยายธุรกิจนี้ เนื่องจากเราจบด้านการบริหารทำให้มีความรู้ด้านการทำธุรกิจพอสมควร จึงได้วางแผนขยายสาขาเพิ่ม และเปิดเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ขึ้น



      “สำหรับแฟรนไชส์ของเรานั้นจะเป็นแฟรนไชส์ที่แตกต่างจากแฟรนไชส์ทั่วไป เนื่องจากเราจะไม่คิดค่าแฟรนไชส์ใดๆทั้งสิ้น ขอเพียงสั่งซื้อวัตถุดิบจากเราก็สามารถเปิดร้านโจ๊กหมูเจ้านายได้ทันที โดยเราพร้อมที่จะสอนการทำโจ๊กหมูทุกขั้นตอนสาเหตุที่เราตัดสินใจไม่คิดค่าแฟรนไชส์นั้น เนื่องจากเรามองว่าเศรษฐกิจทุกวันนี้คอนข้างแย่ ดังนั้นหากจะต้องมาเสียค่าแฟรนไชส์เพื่อจะได้ทำธุรกิจนั้น ผมมองว่ามันไม่เหมาะสม ผมอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสสร้างธุรกิจด้วยตัวเอง ภายใต้การลงทุนน้อย แต่ได้ผลกำไรที่ชัดเจน ซึ่งโจ๊กหมูเจ้านายก็ตอบโจทย์ตรงจุดนี้ เพราะสามารถทำกำไรไม่ต่ำกว่า 40%-50%”
          สำหรับวัตถุดิบที่เราจำหน่ายนั้นจะมี 4 อย่าง นั่นก็คือหมูเด้งปรุงรส, เครื่องใน,น้ำปรุงรส, ปาท่องโก๋กรอบซึ่งหมูเด้งปรุงรสเป็นหมูที่เราคัดสรรมาเป็นอย่างดี นำมาปรุงรสให้ได้รสชาติอร่อยไม่ซ้ำใคร เป็นเอกลักษณ์ของโจ๊กหมูเจ้านายอย่างแท้จริง โดยของสดจะมีการฟรีซแข็งซึ่งสามารถเก็บได้นานเป็นสัปดาห์ แล้วเอามาละลายก็จะได้รสชาติเหมือนเดิม ที่สำคัญมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ปราศจากผงชูรสและวัตถุกันเสียอย่างแน่นอน




รูปแบบของธุรกิจและสิทธิประโยชน์
      ไม่มีค่าแฟรนไชส์ เพียงสั่งซื้อวัตถุดิบจากเราก็สามารถเปิดโจ๊กหมูเจ้านายได้ทันที โดยเราพร้อมที่จะสอนการทำโจ๊กหมูทุกขั้นตอน และเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาด้านทำเล
บทสรุปความเป็นมืออาชีพ
- คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ ไม่ใช้วัตถุดิบตามท้องตลาดทั่วไป
-หมูเด้งปรุงรสจะมีรสชาติดี ไม่ใส่ผงชูรสและวัตถุกันเสีย
-ลงทุนน้อย ไม่มีค่าแฟรนไชส์
-ไม่ใส่ผงชูรสและวัตถุกันเสีย
-เราพร้อมที่จะสอนการทำโจ๊กหมูทุกขั้นตอน
-พร้อมให้คำปรึกษาในเรื่องของทำเลการเปิดร้าน




เป้าหมายความสำเร็จในปี 2559
      สำหรับปี 59 ผมไม่ได้ตั้งเป้าไว้สูงนัก เนื่องจากเรายังเป็นแฟรนไชส์น้องใหม่ จึงตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์เพียง 4-5 สาขาเท่านั้น

ข้อมูลธุรกิจ
ชื่อกิจการ     โจ๊กหมูเจ้านาย
ประเภทกิจการ  แฟรนไชส์อาหาร
สถานที่ติดต่อ   152/72 ซ.เสนานิคม 1 ถ.พหลโยธิน เขตลาดพร้าว
               กรุงเทพ 10230
โทร        08-4644-9695
email      tabarbie.923@gmail.com
fb           โจ๊กหมูเจ้านาย
line         lek 8080

0 ความคิดเห็น
 
ธุรกิจน่าลงทุน © 2012 | Designed by ธุรกิจน่าสนใจ,ธุรกิจSMEs10ธุรกิจดาวรุ่ง2557 , Radio stations and นิตยสารSMEsสร้างอาชีพ